Breaking News
Home / My love / My stories / Books / คอมปะ เทคนิคจัดเลี้ยงพนักงานให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด!

คอมปะ เทคนิคจัดเลี้ยงพนักงานให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด!

 

?อีกหนึ่งเคล็ดลับความสำเร็จ ยกระดับการสื่อสารของคนในองค์กรแบบเทพๆ จากอินาโมริ คาซึโอะ เทพแห่งการบริหารของญี่ปุ่น

.
หลายองค์กรมีปัญหาการสื่อสารระหว่างแผนก พนักงานไม่ค่อยมีส่วนร่วม มีการไม่เข้าใจกันระหว่างทีมงาน แก้ยังไงดี แนะนำว่า ลองหาวิธีประยุกต์เทคนิคนี้ดูคะ
.
เคล็ดลับ อาวุธเด็ด ที่ทำให้องค์กรที่คุณอินาโมริบริหาร ประสบความสำเร็จเข้าขั้นมหัศจรรย์
.

ปิ่นติดตามเรื่องราวของคุณอินาโมริ มาไม่น้อย ประทับใจ ไฟลุก ตลอดๆ
กับความสามารถในการขับเคลื่อน บริษัทโนเนม ที่เริ่มจากศูนย์ ขึ้นมาแข่งขันต่อกรกับยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจระดับโลก เช่น เคียวเซร่า
และที่สะเทือนโลกที่สุด คือ การพลิกฟื้นกิจการให้ Japan Airline (JAL) จากขาดทุนย่อยยับ ให้กลับมามีกำไรทันทีใน 1 ปี กราฟเติบโตเป็นตัว V โดยคุณอินาโมริ คาซึโอะ

.
และพบว่า สองเคล็ดลับสำคัญ ที่เป็นนวัตกรรมการบริหาร ที่คุณอินาโมริ คิดค้นสร้างขึ้น ถ้าองค์กรไหน ได้นำมาประยุกต์ใช้ได้ ก็ย่อมพลิกฟ้า คว้าดาวได้ เหมือนอย่างที่มีบริษัทในญี่ปุ่นมากมาย ทำได้มาแล้ว
.
คือ 1. การบริหารแบบอะมีบา (เกี่ยวกับการบริหารเงิน บัญชี)
และ 2. การจัด “คอมปะ”
.
ในวันนี้ จะขอพูดถึงเรื่อง คอมปะ


.
เป็นอะไรที่แซ่บ และน่าสนใจมาก
? คอมปะคืออะไร
มันคือ การกินเลี้ยงสังสรรค์ แต่มันไม่ใช่งานสังสรรค์ธรรมดา
แต่ทำแบบคนมีปัญญา และส่งผลต่อการทำงานร่วมกันของคนในองค์กรอย่างมีนัยสำคัญ ขับเคลื่อนการทำงาน ได้ Productivity และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เป็น “Outward Mindset” ที่เป็นแก่นอยู่ในกิจกรรมนี้
.
เขาทำอย่างไร จึงรวมน้ำหนึ่งใจเดียว และโมติเวท จุดไฟให้พนักงานทุกคน ไฟลุก และรักกลมเกลียว เข้าใจกันอย่างดี
.
เบื้องหลัง ในการดีไซน์นวัตกรรมการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์แบบนี้คือ
.
?การที่กลุ่มผู้บริหาร ให้ความสำคัญกับ “คน”
อาหารในการจัดเลี้ยง ก็ต้องเสริมการมีส่วนร่วมกัน เช่น สุกี้ยากี้ ชาบู หม้อไฟต่างๆ
การนั่งโต๊ะ ก็ต้องจัดให้ละลายพฤติกรรม และสลายไซโล
(แม้จะ Social Distance เราก็อาจประยุกต์กับการประชุมผ่านโปรแกรมออนไลน์ดู)
.
สามารถจัดได้ในหลายโอกาส
.
ไม่ว่าจะเป็น คอมปะฉลองยอดขายตามเป้า, คอมปะพบพนักงานใหม่, คอมปะ มุ่งมั่นร่วมกันเติบโตแบบก้าวกระโดด, คอมปะความร่วมมือระหว่างแผนก, คอมปะกรรมการโครงการ
.
?จะจัดหลังงานเลิก ถ้าที่เคียวเซร่า ก็คือ ใช้ห้องประชุมได้ตั้งแต่ 17.30
สั่งอาหารที่ห้องอาหาร ราคาไม่แพง หรือเลือกห้องประชุมในบริษัท ที่สามารถกินได้


.
แต่นี่ก็ไม่ใช่การจัดเลี้ยงธรรมดา ต้องมียุทธวิธีพิเศษบางอย่าง ที่ต้องปลูกฝังเป็นวัฒนธรรมองค์กรในนั้น ซึ่งจะมีบอกบทบัญญัติ คอมปะ 7 ข้อ ด้านล่าง
.
? ที่มาของไอเดียการจัด “คอมปะ”:
อินาโมริรู้สึกสัมผัสได้ว่า เวลากินดื่มกับพนักงานอย่างไม่เป็นทางการ เช่น เลี้ยงส่ง เลี้ยงขอบคุณ ไปเที่ยวกับพนักงาน รู้สึกพูดคุยเปิดอกกันได้มากกว่า ทุกคนเข้าใจความคิดของคุณอินาโมริได้อย่างง่ายดาย
.
ดังนั้น การพูดเรื่องเป็นการเป็นงาน พูดในงานทาวฮอลล์ อาจมีความเครียด หลายคนอาจฟังหูซ้าย ทะลุหูขวา แต่พอพูดในงาน “คอมปะ” ดูพนักงานรับฟัง และไม่เครียด
.
? วิธีที่คุณอินาโมริทำ
จะวนไปรินเครื่องดื่มให้แต่ละโต๊ะ เปลี่ยนวิธีคุยให้เหมาะกับแต่ละคน แม้จะคุยเรื่องงาน แต่ก็ไม่เป็นทางการ ทำกิจกรรมกัน เช่น ร้องเพลงร่วมกัน แม้จะพูดเรื่องมีสาระเป็นส่วนใหญ่ แต่บรรยากาศจะอบอุ่น ทำให้เข้าถึงจิตใจคนฟัง และให้แรงบันดาลใจที่ให้แต่ละคนต้องการพัฒนาตนเอง
.
และคุณอินาโมริจะพูดถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทอย่างมั่นใจ ว่าจะเป็นที่หนึ่งในเขต แล้วก็ที่หนึ่งในจังหวัด แล้วก็ที่หนึ่งในญี่ปุ่น แล้วก็ที่หนึ่งในโลกให้ได้ (แม้ในวันที่ยังเป็นบริษัทเล็กๆ อยู่เลย) และพูดถึงปรัชญาการทำงานซ้ำๆๆๆๆ เรียกว่าฟังบ่อยมากจนเมื่อยหู (ผู้เขียนรู้สึกว่า เป็นการสะกดจิตทีมงานนั่นเอง ^^)
.
?ในคอมปะ ทุกคนจะพูดกันอย่างเปิดอก หากมีอะไรที่ไม่เห็นด้วยก็จะพูดคุยถกเถียงกัน ผู้บริหารจะตั้งใจฟัง หลังจากพูดจบ บางทีก็จะมีคำแนะนำว่าทำแบบนี้ดีกว่า ฯลฯ
.

และในการพูด “ต้องใส่จิตวิญญาณลงไปด้วย”


.
✨ *** ความแตกต่าง ระหว่างการคุยงานที่ออฟฟิศในเวลางาน และการคุยในคอมปะ*** ✨
พูดในเวลางาน มักจะพูดฝ่ายเดียว ไม่ใช่การพูดคุยร่วมกัน แต่พอกินไป ดื่มไป แต่ละคนก็จะแสดงความเป็นตัวตนที่แท้จริงออกมา ทำให้เป็นการพูดคุยในฐานะคนคนหนึ่ง
.
การพูดคุยในเวลางาน กับคุยในคอมปะ เนื้อหาจะแตกต่างกันสิ้นเชิง แม้จะคุยเรื่องเดียวกันก็ตาม
ในคอมปะ จะคุยเหมือนเราอยู่ในระดับเดียวกัน ไม่มีตำแหน่งเข้ามาเกี่ยวข้อง จะรู้สึกเป็นหนึ่งเดียว พนักงานจะเปิดใจคุยกับผู้บริหาร จะเข้าใจว่าผู้บริหารคิดอย่างไร ผู้บริหารก็จะเข้าใจว่าพนักงานคิดอย่างไร เกิดความเชื่อใจกัน เป็น “การแสดงความรักต่อพนักงาน”
เป็นการปฏิบัติต่อกันในฐานะคนเหมือนกัน ใจเขา ใจเรา เข้าใจซึ่งกันและกัน (มองเห็นคนเป็นคน ใน Outward Mindset ✨) ทำให้เกิดการยอมรับมากกว่าการคุยอย่างเป็นทางการในเวลากลางวัน
.
ผลที่ได้คือ แนวทางการทำงานของผู้นำองค์กร จะซึมลึกเข้าไปในทุกภาคส่วนขององค์กร, องค์กรจะแข็งแกร่งจากความไว้เนื้อเชื่อใจกันอย่างมาก และพนักงานจะได้รับการพัฒนา โดยต้องมีการถามตัวเองตลอดเวลาเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตและวิธีการทำงาน
.
องค์กรที่อ่อนแอ พนักงานจะคบกันเพียงผิวเผิน และจะเผชิญผ่านปัญหาไปไม่ได้ คนในองค์กรต้องสละแรงและเวลาที่จะคุยกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้เข้าใจกันได้จากก้นบึ้งของหัวใจ หากเราเห็นเขาเป็นคน เราทำได้แน่นอน และเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนน้ำตาซึมในระหว่างการจัด “คอมปะ”


.
? บัญญัติ 7 ประการของคอมปะ ?
? (1) ทุกคนต้องร่วมงาน
เป็นกฏเหล็ก ทุกคนต้องเสียสละเวลาส่วนตัว เพื่อมาร่วมงาน และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร การจัดคอมปะ ครั้งแรก ต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่า เราจัดคอมปะเพื่ออะไร ทำไมทุกคนต้องเข้าร่วม หากมีใครมาร่วมไม่ได้ หัวหน้าต้องโน้มน้าว เพราะหากมีคนเดียวที่ไม่มาร่วมงาน แนะนำว่าไม่จัดเสียจะดีกว่า หัวหน้าทุกคนต้องตั้งมั่นว่าทุกคนต้องร่วมงาน การจัดแรกๆ อาจเหนื่อยเมื่อทุกคนยังไม่เห็นความสำคัญ แต่เมื่อจัดหลายๆ ครั้ง วัฒนธรรมการจัดคอมปะจะได้รับการยอมรับอย่างแน่นอน
.
? (2) ตั้ง “หัวข้อ” สำหรับคอมปะ
อาจเป็นหัวข้อเกี่ยวกับงานโดยตรง เช่น “มีวิธีอะไรบ้าง เพื่อทำให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้” หรือ หัวข้อที่เป็นแนวคิด ปรัชญา ช่น “ทำอย่างไรเราจึงจะเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่น” เป็นต้น มีการกำหนดคนเป็นพิธีกรดำเนินงาน (บางคอมปะถึงกับมีคนจดบันทึก เพื่อให้มาทบทวนภายหลัง) หัวข้อก็ต้องแจ้งล่วงหน้า เพื่อพนักงานทุกคนจะได้มีเวลาคิดเนื้อหามา ทุกคนต้องมีส่วนร่วม ไม่มีคนที่นั่งฟังเฉยๆ
.
มีการกำหนดเรื่องคุย ไม่คุยนอกเรื่อง หากใครแสดงความเห็น ทุกคนร่วมถกเถียงกันและต้องตั้งใจฟังคนอื่นว่าพูดอะไร ระหว่างนั้นจะกิน ดื่มได้ตามใจ หลายๆ ครั้งการจัดคอมปะ จะทำให้สามารถดึงเอาความคิดเห็นของพนักงานอายุน้อยๆ ออกมาได้อย่างดี
.
บางบริษัท ก็จัดคอมปะ หลังจากการประชุม หรือ หลังจากการอบรม จะทำให้เข้าใจเรื่องที่เรียนมาได้ลึกซึ้งขึ้น
.
? (3) “ลำดับการจัดงาน” และ “การกำหนดที่นั่ง”
ไม่ใช่จัดงานเลี้ยงทั่วไปเรื่อยเปื่อย แต่งานนี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด ต้องเตรียมการจัดลำดับงาน เพื่อใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ และกำหนดที่นั่ง ให้นั่งคละ สลายไซโลให้ได้มากที่สุด
.
การกำหนดเวลาเช่น กล่าวเปิดงาน เชิญดื่ม 5 นาที, พูดคุยสังสรรค์ 20 นาที, อธิบายหัวข้อ 5 นาที ถกเกี่ยวกับหัวข้อ 70 นาที
.
ทั้งนี้ เวลาในการใช้แต่ละคอมปะก็อาจแตกต่างกันไปตามหัวข้อ และบริษัท โดยเฉพาะประมาณ 1-3 ชม. (มีตัวอย่าง อย่างละเอียดในหนังสือสังสรรค์สไตล์อินาโมริ)
ส่วนทีมที่ได้รับมอบหมายให้จัดคอมปะ (ซึ่งอาจมีการหมุนเวียนไปแต่ละแผนก) ต้องกำหนดที่นั่งของผู้ร่วมงาน ส่งให้หัวหน้าตรวจดูก่อนวันงานหนึ่งวัน หนึ่งโต๊ะ ต้องคละหลายๆ แผนก ไม่ให้แผนกเดียวกัน หากคิดว่าใครนั่งด้วยกันแล้วจะมีประโยชน์ก็จัดแบบนั้นได้ แต่ละโต๊ะจะจัดให้มีผู้นำคอยคุมการคุย 1 คน ซึ่งเป็นสิ่งที่คอมปะสไตล์อินาโมริให้ความสำคัญมากๆ
.
? (4) “ใส่ใจผู้อื่น” รินเครื่องดื่มให้คนอื่น
อันนี้ อาจเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่น แต่ในไทย ก็สามารถลองประยุกต์ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
.
? (5) เล่า “ความฝันที่ยิ่งใหญ่” ให้คนอื่นฟัง
เรื่องนี้ มีความสำคัญ อินาโมริชอบพูดในคอมปะเป็นประจำว่า บริษัทเราต้องเป็นอันดับ 1 ในเขต…ต่อจากนั้นต้องเป็นหนึ่งในเมือง เป็นหนึ่งในญี่ปุ่น และหนึ่งในโลก”
การประกาศความฝันให้คนรับรู้ เป็นบ่อเกิดพลังงานของพนักงานทุกคน ที่จะมุ่งมั่นทำฝันนั้นให้สำเร็จเป็นจริง ความฝันที่ยิ่งใหญ่จะทำให้คนในบริษัทมีความรักใคร่กลมเกลียวกันมากขึ้น จะทำให้ผู้คนฮึกเหิม
.
? (6) “สรุป” ด้วยคำพูดของตัวเอง
งานอื่น ตอนเลิกงาน ก็บ๊ายบาย สวัสดี แต่งานนี้ จะแจ้งให้พนักงานร้านคิดเงิน ปรบมือหนึ่งชุด หรือสามชุด แล้วให้ทุกคน กล่าวสรุปสิ่งที่ได้ถกกันมา หรือเรียกว่า ประกาศสิ่งที่ตั้งใจจะทำ ว่า วันนี้ที่ถกมาได้เรียนรู้อะไรบ้าง หรือคิดอะไรออกบ้าง หรือตั้งแต่พรุ่งนี้ไปจะปรับปรุงตัวอย่างไร (ก็คือ Check Out ใน yournextu นั่นเอง)
.
เวลาคนอื่นพูด คนฟัง ห้ามคุยกันเป็นอันขาด ทุกคนต้องตั้งใจฟัง เพราะทุกคนจะได้มีการพัฒนาความคิดที่จะเติบโตได้มากที่สุด แล้วคิดทบทวนแล้วอธิบายออกมาด้วยคำพูดของตัวเอง จะทำให้ทุกคนจดจำเรื่องที่คุยกันในคอมปะได้ ซึ่งอาจะเรียงการพูดแบบสุ่ม ให้คนก่อนหน้า เรียกชื่อคนถัดไปก็ได้ จะทำให้ทุกคนตื่นตัวตลอดเวลา
.
บางบริษัทให้มีการสรุปคอมปะ ถึง 3 ครั้ง คือ ช่วงท้ายสุดของการจัดคอมปะ, อีกหนึ่งสัปดาห์ส่ง “รายงานการเข้าร่วมคอมปะ” และครั้งสุดท้าย เมื่อทุกคนวนอ่านรายงานนั้น
.
? (7) รูปแบบของคอมปะ “ต้องพัฒนาทุกวัน”
.
รายละเอียด และเคสตัวอย่างของการจัดคอมปะ มีเยอะแยะ มากมาย
สนใจแนะนำให้อ่านหนังสือ “สังสรรค์ สไตล์อินาโมริ” ของสำนักพิมพ์สุขภาพใจ เขียนโดย ฮปโป มาซาโตะ และคุโบะ ชุนสุเกะ แปลโดย วงศ์สิริ สังขวาสึ มิยาจิ

.

.
สนใจเรียนรู้เรื่อง Outward Mindset คืออะไร องค์กรที่ใช้ทำไมผลประกอบการดีขึ้นหลายเท่า เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่
www.yournextu.com หรือ LINE: @yournextu
.
สนใจอ่านเนื้อหาน่าสนใจเกี่ยวกับ แรงบันดาลใจ, นวัตกรรม, การเล่าเรื่อง เพิ่มเติมได้ที่ www.pintooh.com

.
#เสิร์ฟด้วยใจ
#pintooh
.
ติดตามข้อมูลน่าสนใจ เกี่ยวกับ #inspiring เรื่องใจบันดาลแรง . #innovating นวัตกรรมได้ใจ . #storytelling การเล่าเรื่องโดนใจ สามารถ กด LIKE/ Share ติดตามเป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

Please follow and like us:
0

About pintooh

งานประจำ คือ เรียนรู้ และแบ่งปัน
> งานพิเศษ คือ ท้าทายตัวเอง
> งานอดิเรก ผูกพันกับดนตรี เกาหลี และแรงบันดาลใจทั้งปวงในโลกหล้า
::: Now I am practicing Storytelling + Vipassana + Life designing + Innovating :::

Check Also

เมื่อช่างซ่อมเปียโน ต้องไปจูนเสียงเปียโนที่ รพ. แห่งหนึ่ง

“การทำใจ ยอมรับ …

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *