Pintooh Inspiring Innovating Storytelling
ขึ้นชื่อว่า เป็น คนที่สร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ ให้กับโลก ก็ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าจะพบว่า เขามีจิตวิญญาณของนักทดลอง (ซึ่งตรงกับแนวทาง Design Thinking (Prototype & Test)) มีเป็น DNA เลยทีเดียว (ถ้าใครไม่รู้จักนักเขียนคนนี้ ตอนท้ายจะมีแนะนำนีล ไกแมนเพิ่มเติม)
และพบว่าเขามีมุมคิดในแนวทางเดียวกับนักคิด นักเขียน ครู นักธุรกิจและเพื่อนๆ ที่รู้จักที่เป็นนักนวัตกรรม นักสื่อสารที่ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่หลายๆ คน #DNAเดียวกัน
.
พื้นฐานเรื่องที่พูดของนีล อาจอยู่บนเรื่องราวของการเขียนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีคำที่กล่าวถึง ศิลปะ และศิลปิน เพียงแต่ ถ้าเราเปิดหัวใจให้กว้างพอ จะพบว่าคำแนะนำนั้น ประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่องที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม ไม่เฉพาะกับเรื่องการเขียน
.
(ปล. อาจมี # hashtag แทรกบ้าง เป็นความคิด ความรู้สึกของเราเอง ตอนที่ได้รู้และสรุปข้อคิดนั้นๆ)
1 จงทำโปรเจคทดลองเล็กๆ ให้มากๆ บ่อยๆ
ปล่อยลูกโป่งแห่งการทดลองของคุณออกไป เหมือนเกสรดอกแดนเดเลี่ยนที่ปลิวไป ปลิวไป
บางเกสรจะได้มีชีวิตอยู่ต่อ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้ไปต่อ
แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเกสรดอกแดนเดเลี่ยนบางส่วนที่รอด จะนำพาเกสรอีกมากมาย ไปต่อ และก่อให้เกิดต้น แดนเดเลี่ยนต่อไปเอง
ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น ทำโครงการทดลองเล็กๆ ให้เยอะๆ แล้วส่งมันออกไป
เหมือนการส่งเกสรดอกแดนเดเลี่ยน
#เห็นภาพ #Prototype&test #failfast #failforward
2 สำเร็จ เป็นสัญญาณให้พยายามมากขึ้น ไม่ใช่หยุดพยายาม
จงดีใจกับ 5 สิ่งที่คุณล้มเหลว
ถ้ามีอันไหนที่สำเร็จ สำเร็จอย่างดี ให้พยายามมากขึ้น อย่าหยุดแค่นั้น นี่เป็นคำแนะนำที่ยิ่งใหญ่จากผม
3 จงรู้สึกผจญภัย ในสิ่งที่จะทำ
เวลาต้องเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำมันยังไง
กับอีกหนึ่งสิ่งตรงนี้ ที่ผมรู้ดีแล้วว่าต้องทำยังไง ผมได้เรียนรู้ถึงวิธีทำแล้ว หาวิธีเจอแล้ว และครั้งล่าสุด ทุกคนชอบมัน มีคนตั้งหน้าตั้งตารอ
ส่วนอีกอัน ที่ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไง ไม่มีใครเฝ้ารอสิ่งนี้ และผมไม่คิดว่าจะมีใครชอบมันด้วย ผมจะทำสิ่งที่ผมยังไม่รู้นี่ล่ะ
เวลาจะทำอะไรสักอย่าง ผมจะทำเวลาที่ผมรู้สึกว่ามันเป็น “การผจญภัย” และจะหยุดเวลาที่รู้สึกว่ามันเป็น “งาน”
#รู้แล้วว่าความกวนคืออะไร #ความติสต์ด้วย
4 ไม่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ก็เลยทำให้เป็นไปได้
กฎว่าอะไรเป็นไปได้ อะไรเป็นไปไม่ได้ ในโลกของศิลปะนั้นถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ ซึ่งยังไม่ได้ทดสอบขีดจำกัดความเป็นไปได้ โดยก้าวไปให้ไกลกว่าเก่า แต่คุณสามารถทำได้
ถ้าคุณไม่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันง่ายกว่าที่จะลงมือทำมัน
และเพราะไม่เคยมีใครทำมาก่อน เขาก็เลยยังไม่ได้ตั้งกฏกติกาอะไรเพื่อหยุดใครที่จะทำมัน ในเมื่อไม่มีใครรู้ว่า กฏใหม่จะเป็นยังไง ดังนั้น จงสร้างกฏใหม่ด้วยตัวเอง
#ความไม่รู้มีคุณูปการ
#ไม่จำเป็นต้องรู้เยอะเกินเหตุก่อนลงมือทำเพราะอาจติดกับดักรู้มากแต่ไม่ตรงกับความจริงได้
5 ไม่มีใครเป็นคุณได้ เว้นแต่ตัวคุณเอง
ไม่มีใครมีมุมมองแบบคุณ ยกเว้นคุณ
ไม่มีใครนำสิ่งที่คุณเข้าใจออกไปสู่โลกได้เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร อย่างวิถีที่คุณจะส่งมันออกไปสู่โลก มีแต่คุณที่ทำได้
ดังนั้น การที่บอกว่า โลกนี้ มีนักเขียนมากพอแล้ว มีผู้กำกับมากพอแล้ว มีคนที่มีมุมมองแบบนั้นมากพอแล้ว แต่ไม่มีใครที่เป็นคุณ
และคนเหล่านั้นไม่มีใครสร้างศิลปะแบบที่คุณจะสร้าง
คนเหล่านั้นไม่มีใครเปลี่ยนผู้คนและเปลี่ยนโลก ในวิถีที่คุณเปลี่ยนได้
ดังนั้น ถ้าคุณเชื่อว่ามีใครบางคนบอกว่า อย่าทำนะอย่าทำเลย เรามี (อาชีพนั้นๆ) มากพอแล้ว นั่นหมายความเพียงว่า คุณกำลังจะเลิกล้มโอกาสที่จะเปลี่ยนโลกในวิถีที่มีแต่คุณเท่านั้นที่เปลี่ยนได้
#inspireมาก
6 คำแนะนำในการสร้างเรื่องราว คือ แค่ลงมือทำ
อยากเขียนเรื่อง ให้เขียนเรื่อง
มันเรียบง่ายแบบนั้นแหล่ะ
เลือกสไตล์ เลือกธีม แล้วเขียนออกมา
มันอาจเหมือนแพนเค้กชิ้นแรกที่ทอดซึ่งไหม้ดำเละไปหมด จนคุณเอาให้สุนัข และพยายามบอกมันว่า นี่คือดีนะ
คุณเขียน คุณเขียนเสร็จ แล้วก็เริ่มใหม่ คุณเขียน จนเสร็จ ตรงใดตรงหนึ่งตรงนั้นล่ะ ที่มันจะเริ่มดีพอสมควร
สมมุติว่าคุณมีคำเป็นล้านในตัวคุณ ที่แย่ราวกับขยะ คุณต้องเอามันออกมาก่อนที่คุณจะเจออันที่ดี ถ้าคุณเจอมันได้ไว นั่นก็คือเยี่ยม
#อันนี้ดีมากกกกก #โดน
7 แรงบันดาลใจในการเขียน มาจากไหน
มาจากสถานที่มากมาย วันกำหนดส่งงาน ความสิ้นหวัง บางครั้งมันมาตอนที่คุณทำอย่างอื่นอยู่ และส่วนใหญ่ ไอเดียมาจากการบรรจบกันของสองสิ่งที่ไหลต่อเนื่องมาด้วยกัน มันมักจะมาจากการฝันกลางวัน
นักเขียนจะถูกฝึกให้ตัวเองช่างสังเกต
ทุกคนก็รู้ใช่ไหมว่า ถ้าเราถูกมนุษย์หมาป่ากัด พอพระจันทร์เต็มดวง เราก็จะเปลี่ยนเป็นหมาป่า
แล้วพอตอนที่เรานั่งคิด …ก็อาจออกมาว่า…อะไรจะเกิดขึ้น ถ้ามนุษย์หมาป่ากัดปลาทอง…
8 หนังหนา หน้าด้านบ้าง เป็นไรไหม
พอคุณเริ่มลงมือทำ คุณต้องจัดการกับปัญหาของความผิดพลาด คุณต้องหนังหนา (หน้าด้าน) เพื่อที่จะเรียนรู้ว่า ไม่ใช่ทุกโปรเจคที่จะอยู่รอด
9 Make good art
โปรดจำไว้ว่า ไม่ว่าวินัยของคุณจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดนตรี ช่างภาพ ศิลปิน นักวาดการ์ตูน นักเขียน นักเต้น นักร้อง ดีไซน์เนอร์ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร คุณมีสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ คุณมีความสามารถที่จะสร้างผลงานศิลปะ(สไตล์คุณเอง)ได้
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จงสร้างศิลปะที่ดี
บางทีชีวิตก็ยาก บางสิ่งก็ผิดพลาดไปในชีวิต ไม่ว่าจะเรื่องความรัก ธุรกิจ มิตรภาพ สุขภาพ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะผิดพลาดไป และเมื่อสิ่งต่างๆ ยากลำบาก สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ “สร้างศิลปะที่ดี”
บางคนในโลกโซเบอร์อาจคิดว่าสิ่งที่คุณทำมันงี่เง่า หรือเลวร้าย มันเคยมีคนทำมาแล้ว …ก็ขอให้ “สร้างศิลปะที่ดี”
บางทีสิ่งต่างๆ อาจไม่เป็นอย่างที่คิด ไม่มีอะไรสำคัญ จงทำสิ่งที่มีแต่คุณเท่านั้นที่ทำได้ดี จง “สร้างศิลปะที่ดี”
จงสร้างศิลปะในวันที่ไม่ดี …สร้างศิลปะในวันที่ดีเช่นกัน
เขียนสิ่งที่ผู้คนอยากอ่าน
เขียนสิ่งที่คุณใส่ใจ
10 จงออกไปผิดพลาดอย่างพิเศษ
จงออกไปทำความผิดพลาดที่น่าสนใจ ความผิดพลาดที่น่าทึ่ง ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ ความผิดพลาดที่มหัศจรรย์ ทำลายกฎเกณฑ์ซะ ทำให้โลกนี้น่าสนใจขึ้นเพราะคุณมาอยู่นี่แล้ว จง “สร้าง.ศิลปะ.ที่ดี”
Go make interesting mistakes, amazing mistakes, glorious mistakes, fantastic mistakes. Break rules, leave the world more interesting for you being here. Make. good. art.
#กล้าทันที
ใครแข็งแรงภาษาอังกฤษ ลองดูสรุป 10 ข้อคิดความสำเร็จของนีล ตามลิงค์นี้ค่ะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………
นีล ไกแมนคือใคร?
เป็นนักเขียนชื่อดัง ได้รับรางวัลมากมาย มีชื่อเสียงเรื่องการสร้างสรรค์ผลงานที่ฉีกแปลกขนบเดิมๆ
ผลงานดังของเขาเช่น Stardust (มีสร้างเป็นภาพยนตร์) และ Colaline ซึ่งเป็นวรรณกรรมเยาวชน ที่ปฏิวัติวงการ ด้วยการใส่ความสยองมาในวรรณกรรมเด็ก ถึงขนาดที่นักอ่านจำนวนมากบอกว่า เด็กพออ่านได้ แต่อย่าเด็กเกิน เดี๋ยวจะหลอน
ส่วนตัวเคยเห็นหน้าปกหนังสือ Colaline ซึ่งเป็นวรรณกรรมที่หน้าปกเตะตามากๆ จากสำนักพิมพ์มติชน ที่เคยหยิบมาดูหลายปีก่อนในงานสัปดาห์หนังสือ
มารู้จัก ก็ตอนที่ได้ดูคลิปใน youtube เป็นคำกล่าวสุนทรพจน์ของนีล ไกแมน กับธีมคีย์เวิร์ดเด็ดที่ดังมากคือ Make.Good.Art
พอได้รู้แนวคิดของนีลแล้ว ก็จับได้ว่า ความแปลก ความกวน ความ “คาดไม่ถึง” นี่ล่ะ ที่ทำให้ผลงานเขา “โดดเด่น” และ “แตกต่าง” และสร้างวิถีใหม่ๆ ให้กับโลก
ท้ายที่สุดแล้ว การดึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราออกมานั่นล่ะ ที่จะสร้างความแตกต่าง เพราะทั้งโลกนี้ ไม่มีใครอีกแล้ว ที่เหมือนเรา
ข้อไหนโดนใจเพื่อนๆ ที่สุดคะ และเพราะอะไร
นี่สรุปจบ #pintooh ไปลงมือสร้างศิลปะและปล่อยดอกแดนเดเลี่ยนแล้วนะคะ
เพื่อนๆ จะทำอะไรบ้างหลังจากนี้คะ
เสิร์ฟด้วยใจ
#pintooh
