#เข็มทิศภาวนาอินเดีย #day2
15.12.15
การสวด นะโมตัสสะ
หรือ การสวด อะระหัง สัมมาฯ
สวดอิติปิโส หรือจะสวดใดๆ เชิดชูพระคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
มันมีความหมายลึกซึ้งถึงแก่นหัวใจ ไม่ใช่เพียงแค่ออกเสียงเหมือนเดิมๆ จากนี้ไป
เดิมแม้ยังรู้จักพระพุทธเจัาอยู่ห่างๆ ก็รู้สึกทึ่งและศรัทธาอยู่แล้ว
แต่จากนี้ รู้สึก ยิ่งเทิดทูนท่าน ในทุกอณูไปจนถึงก้นบึ้งหัวใจเลย
ขอบพระคุณครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง จนไม่อาจบรรยายปริมาณความรู้สึกขอบพระคุณได้ สำหรับแง่มุมที่ชี้ให้พวกเรามอง
#มันซึ้งโฮก ค่ะ
เป็นบุญหลายสิ่งมาก
แม้ยังไม่อาจมองเห็นเทวดาดัวยตาเนื้อได้
แต่รู้สึกราวกับมีเทวดายกโขยงกันมาช่วยให้โอกาสและสถานที่ ที่ ฟินสุดยอด
ขอกราบขอบพระคุณคุณครูอ้อยและบุญบารมีทั้งหมดที่ครูกอปรก่อมา
ทำให้พวกเราสิริรวมได้นั่งสมาธิในทำเลที่เลิศมากๆ ในพุทธคยารวมถึง 3 ครั้ง
ตัดสินใจดีแลัวที่ไม่ใช้อายไลน์เนอร์ในวันนี้ .. น้ำตาไหลเอ่อตลอดวันด้วยความซาบซึ้งขอบพระคุณพระพุทธเจ้าอย่างสูงสุดค่ะ
อากาศเย็นสบายเหมือนอยู่ในห้องแอร์
นกร้องเสียงสดใสดังกระหึ่ม
ด้านหน้าเรา เป็นต้นไม้ใหญ่ และเจดีย์พุทธคยา
เราสวดพระสูตรล้ำค่า คือ บทที่ทำให้พระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวา ผู้เป็นเลิศสุดด้านปัญญา ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
> ใจความสำคัญคือ พระพุทธเจ้าท่าน กำลังตรัสสอนพราหมณ์ ผู้ซึ่งบ่นตลอดเวลาว่า อะไรๆ ก็ไม่ควรแก่เรา จนพระพุทธเจ้าทรงสวนเข้าให้ว่า ความคิดนี้ของท่าน ก็ไม่ควรแก่ท่านเช่นกัน
ทำเอาพราหมณ์ถึงกับอึ้ง ต้องนั่งฟังธรรมต่อ
และบทที่ทำให้พระสารีบุตรบรรลุ คือ เวทนาปริคหสูตร ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสสอนพราหมณ์ ส่วนพระสารีบุตรพัดถวายใกล้ๆ อยู่ ได้ยินก็บรรลุธรรมขั้นพระอรหันต์
::::::::::::::::::::::::::::::::;;;:;::::::
เวทนาปริคคหสูตร แสดงการเกิดขึ้นของเวทนาอย่างปรมัตถ์ กล่าวแสดง ความรู้สึกสุข ความรู้สึกทุกข์ และอทุกขมสุขเวทนาอันไม่สุขไม่ทุกข์ ว่าล้วนเกิดขึ้นแต่มีเหตุเป็นปัจจัยปรุงแต่งขึ้นทั้งสิ้น จึงย่อมล้วนเป็นสังขาร จึงย่อมมีความเสื่อมไป คลายไป สิ้นไป ดับไปเป็นธรรมดา ตามความในพระสูตรนี้ อันเป็นสภาวธรรมของสังขารทั้งปวง จึงย่อมเนื่องถึงเวทนาทั้ง ๓ จึงย่อมอยู่ภายใต้อำนาจพระไตรลักษณ์หรือธรรมนิยามหรืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จึงย่อมเป็นเหตุให้เกิดการเวียนว่ายตายเกิดในกองทุกข์หรือสังสารวัฏเพราะการแสวงหาและยึดมั่นในสุขทุกข์(เวทนา)อย่างไม่รู้จักจบ อย่างไม่รู้จักสิ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม อ่าน
http://www.84000.org/one/1/03.html
http://www.nkgen.com/450.htm
::::::::::::::::::::::::::::::::::::
แล้ว! เราก็ได้ร่วมในพิธีการห่มผ้าจีวรที่คณะเรานำมาถวายให้พระพุทธเมตตา ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในพุทธคยา
#มันเลอค่ามาก #ปีติอย่างยิ่ง
วันนี้เราได้ชมวัดญี่ปุ่น ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่มาก และพระที่มีความเป็นเลิศโดดเด่นได้รับการคัดมา 8 องค์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในพุทธศาสนา เช่น พระสารีบุตร, พระอนิรุทธะ, พระโมคลานะ, พระอานนท์, พระมหากัสสัปปะ, พระสังคจายฯลฯ
พระอาจารย์ที่เป็นไกด์ ก็อธิบายเรื่องราวแต่ละรูปให้ฟัง
บรรยากาศดีงามมาก
… อากาศมันดีจริงไรจริงนะ ยังกะอยู่ยุโรป ในฤดูใบไม้ผลิ
……
แล้วเราก็ไปวัดไทยพุทธคยา สวยงามมาก
ภายในพระอุโบสถ มีจำลองพระพุทธชินราช
พระฉายาพระเจ้าอยู่หัว
ถวายผ้าไตร และปัจจัยต่างๆ ไหว้พระ สวดมนต์
ลงชื่อสมุดเยี่ยมที่นี่
เคยมาที่นี่แล้วครั้งก่อน รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้มาที่นี่
ที่นี่มีต้นโพธิหน่อแตกก้านมาจากต้นโพธิที่เป็นลูกหลานของต้นที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
แล้วเราก็ได้เช่าพระพุทธเมตตรัย (ซึ่งก็เป็นการทำบุญให้วัดด้วย)
แล้วเราก็ไปบ้านนางสุชาดา…ผู้ถวายข้าวมธุปายาสให้เจ้าชายสิทธัทธะก่อนตรัสรู้
เอ๋…. รูปร่างหน้าตาที่นี้ มันช่างแตกต่างราวคนละที่ กับที่เคยมา
เห็นแล้วมันมีความรู้สึกบางอย่าง… เกี่ยวกับ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ยังไงชอบกล
ครั้งก่อน บ้านนางสุชาดา เราต้องเดินเท้าเข้าทุ่งมาไกลลลล
เพื่อมาชม ศาลาเล็กๆ อารมณ์คล้ายๆ ศาลพระภูมิขนาดใหญ่นิดนึง
แล้วก็มีรูปปั้นนางสุชาดาสไตล์ฮินดู…
ซึ่งมันก็ดู ยังไงไม่รู้นะ เล็กไปหน่อย
ดูไม่สลักสำคัญอะไร
แต่มาครั้งนี้ ให้ความรู้สึกที่ดีกว่า แม้ว่าจะไม่เรียลเท่าครั้งก่อน
คราวนี้เป็นเหมือน ฐานสถูป ก่ออิฐขนาดใหญ่โตกว่าบริเวณเก่าประมาณ 50 เท่า
มีล้อมรั้ว ดูเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
เราปิดทองกันตรงนี้แล้วก็ไปนั่งสมาธิที่พุทธคยาอีกครั้ง
เย็นนี้ที่พุทธคยา มุมที่นั่งสมาธิกัน มองเห็นเจดีย พุทธคยาชัดสุด ระดับ vip
เรานั่งตั้งแต่เย็น มองเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้า จนค่ำ (ดังภาพ)
ครูชี้ให้เรามองประทับแนบใจเป็นภาพจำ
ซึ่งก็ช่างเป็นช่วงเวลาที่งดงามดื่มด่ำมากจนแนบใจจริง #เกินบรรยาย
เชิญชวนมองภาพพุทธคยาแนบใจด้วยกัน ในระดับที่จะไม่ลืมแม้วาระสุดท้ายของชีวิต
ครูชี้มุมดีๆ ให้มองอีกแล้วว่า
ในการเลือกจะเป็นพระพุทธเจ้า ท่านต้องทนทุกข์เวียนว่ายอย่างโดดเดี่ยวอยู่ถึง4 อสงขัย
เศษแสนกัลป์ซึ่งจะปรากฏเอกทัคคะ ก็เฉพาะ เศษตรงนี้เท่านั้น #ซาบซึ้งมาก
กลับมาทานข้าวเย็นที่โรงแรม ครูเชิญชวนให้มีการแชร์กันทั้ง ขำ ทั้งซึ้ง
เป็นที่อิ่มใจ อิ่มกาย ในระดับสูงสุด
– นิพพาน คือ ไม่ได้หายไปไหน แต่คืออยู่ทุกที่ พระพุทธเจ้าอยู่กับเราเสมอ แค่เราระลึกรู้
– ถ้าเราโดนใครด่าว่า เทียบกับสิ่งที่พรัพุทธเจ้าเคยเจอ(คนระดับพระพุทธเจ้าที่เป็นที่สุดของมยุษย์ มีบุญญาธิการ และพระปัญญามหาศาล ก็ยังมีคนนินทา มีคนด่าต่อหน้าสารพัดจะเจอมา ) สิ่งที่เราเจอนั้น ขี้ผงมาก เรายังจะต้องกลัว ต้องสะเทือนด้วยเหรอ
– ตั้งแต่นี้ต่อไป เราจะไปแลกเหรอ กับเวทนาชั่วครู่แล้วไม่ทำบนเส้นทางธรรม
::::
วันนี้ ดีงามมากๆ เชิญร่วมอนุโมทนาสาธุกันคะ
ขอกุศลผลบุญอันดีที่ข้าพเจ้าทำไว้ดีแล้ว ส่งให้ทุกท่าน ประสบสุขที่แท้จริง ความสำเร็จที่แท้จริง อยู่บนเส้นทางที่ดีงามอย่างแท้จริง เข้าถึงสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการเกิดเป็นมนุษย์ คือ ถึงนิพพาน ในอนาคตกาลโดยเร็วเทอญ
#หนึ่งในทริปที่ดีระดับสูงสุดในชีวิต
ขอบคุณภาพจากพี่เอ, อิท, ซัน, นพ, พี่บ็อบ, พี่ต้น, พี่ปุ๋ม ฯลฯ ค่ะ
อ่านต่อ #day3 คลิก http://pintooh.com/?p=1108