เยือนป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ตำนานแห่งวันอาสาฬหบูชา #เข็มทิศภาวนาอินเดีย #day8

21 ธ.ค. 58

วันสุดท้ายของการเดินทางเพื่อเยือน 4 สังเวชนียสถาน ประจำปี 2558

แต่ไม่ใช่วันสุดท้ายที่เราจะเดินทางตามรอยพระพุทธเจ้า

 

โปรแกรมวันนี้ เราไปที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ณ กรุงพาราณสี

ถิ่นที่มีแม่น้ำคงคา โรงแรมไฮโซ แต่การดื่มน้ำจากเหยือก ทำให้เราอาหารเป็นพิษมาเมื่อทริปคราวก่อน

 

ชื่อป่านี้ ได้ยินมาตั้งแต่สมัยเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ที่วัดชลประทาน ตั้งแต่ชั้นประถม

เคยมาแล้ว เมื่อรอบการเยือน 4 สังเวชนียสถานครั้งก่อน แต่จำไม่ได้แล้วว่าหน้าตาเป็นยังไง (สำหรับเรา ที่จำได้ติดตาตรึงใจ จากคราวก่อนคือ พุทธคยา, ลุมพินีวัน, นาลันทา, แม่น้ำคงคา, เขาคิชกูฏ, วัดไทยพุทธคยา, ห้องน้ำที่วัด 960 และ หลักฐานบ้านนางสุชาดา นอกนั้น ต้องมาอีกทีให้เห็น landmark ในครั้งนี้ ถึงจะค่อยๆ รำลึกได้ เช่นที่นี่)

 

พอทันที ที่ทีมของพวกเราได้รีบเร่ง ไปให้เช้าที่สุด ก็ปรากฏว่า เช้าเกินไป เจ้าหน้าที่ยังไม่มา

เราก็ยืนรอจนกระทั่งเป็นคนกลุ่มแรกที่มุ่งมั่นตั้งใจมา ที่สถานที่แห่งนี้

 

พอเดินเข้าไป พระอาจารย์ธรรมทูตก็ชี้ให้เห็นสถูปบริเวณที่พระพุทธเจ้าทรงโปรดพระปัจจวัคคีย์ทั้งห้า ในรอบสอง แล้วทำให้บรรลุพระอรหันต์ทั้ง 5 รูป พร้อมกัน (คือ ธรรมราชิกสถูป  มีเกร็ดให้อ่านเพิ่มเติมด้านล่างคะ)

(เราคิดในใจ อ้าว มีรอบสองด้วยเหรอ ที่เคยเรียนสมัยประถม มีแต่ ตอนที่พระอัญญาโกณฑัญญะ บรรลุก่อน…เพิ่งรู้ว่าตอนนั้น แต่ละรูปบรรละโสดาบันก่อน และบวช จนได้มีพระรัตนตรัยครบ 3 เป็นวันสำคัญคือ วันอาสาฬหบูชา นั่นเอง ภายหลัง เมื่อพระพุทธองค์เห็นว่าพร้อม จึงเทศน์อีกพระสูตรเรื่องอนัตตา แล้วทำให้ทุกรูปเป็นอรหันต์พร้อมกัน มีเกร็ดเพิ่มเติมด้านล่างค่ะ)

 

มองลึกเข้าไปด้านใน ก็จะเห็นสถูปใหญ่โตมโหรทึกมาก (พระอาจารย์บอกว่า มันคือ ธรรมเมกขสถูป นั่นเอง)

อ้อ! แลนด์มาร์กนี้จำได้แล้ว

เราเคยมาเดินเวียนเมื่อครั้งก่อน

 

 

พวกเราชาวเข็มทิศภาวนาอินเดีย นั่งสมาธิร่วมกัน บริเวณสถูปที่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 บรรลุอรหันต์ ( ธรรมราชิกสถูป) 

เรานำพระพุทธรูปพุทธเมตตาที่นำมาร่วมบรรยากาศสมาธิตั้งแต่ที่วัดไทยพุทธคยา วางตรงหน้า บนเชิงสถูป

เข้าใจว่าเลือกสถูปนี้ คงเพราะกะว่าจะเล็งระดับอรหันต์กันเลยทีเดียว อิอิ

 

แล้วทุกคนก็ภาวนากันด้วยความสงบสมบูรณ์อิ่มเอมดี

อากาศเย็นเช่นเคย แต่ไม่เย็นเท่าที่วัดพระเชตวันเมื่อวันก่อน

 

เมื่อเรียบร้อยกิจที่ควรทำที่สถูปนี้แล้ว พวกเราก็ได้เดินแทรกอากาศเย็นหนาวของเมืองสารนาถ แห่งกรุงพาราณสีแห่งนี้ ไปถ่ายภาพที่พื้นหญ้า ให้เห็นภาพสถูปใหญ่เบิ้มของป่าอิสิปฯ บริเวณที่ท่านอัญญาโกณฑัณยะ บรรลุโสดาบันเป็นแห่งแรก และทำให้พระรัตนตรัยพร้อมสมบูรณ์

 

 

ภาพสวยมากมาย พระอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งที่กำลังดี

ขณะที่ทุกคนก็ถ่ายภาพโน่นนั่น พวกเราบางส่วน ก็ไปปิดทองที่สถูปแห่งตำนานนั้น และบางส่วนก็เดินวนซ้าย

 

ฉันทั้งปิดทองและเดินวนซ้าย

 

เดินใกล้จะครบรอบ เห็นโอ๋ เพื่อนผู้น่ารักและเก่งกาจของเรา เดินวนสวนมา…

สวนมาสักพัก…แล้วก็ได้ยินเสียงบ่นประมาณว่า

วนทางไหนกันแน่…แล้วก็เห็นโอ๋เดินวนกลับมาทางเดียวกัน

ขำเบาๆ

 

แล้วไกด์ก็ชี้ให้เราเดินลงด้านล่าง ผ่านสถูปจุดที่พระยัสสะ (สาวกสำคัญอีกรูป) https://goo.gl/mwDSqh ได้ฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้า

 

มีคลิปมาฝากด้วยค่ะ ตอนเดินไปที่สถูปพระยัสสะ

บรรยากาศโดยรอบ มีเสียงนกร้อง ฟินๆ และเสียงเพลงอินเดียเป็นแขกรับเชิญนะคะ

 

สรุปเรื่องราวที่ไม่เคยได้รู้มาก่อน จากสถานที่แห่งนี้ก็คือ

1. พระปัญจวัคคีย์ทั้งห้า ฟังพระธรรมครั้งแรก คือ บรรลุโสดาบัน เรียงลำดับกันไป ตามที่เรียนมา คือ     แต่มาฟังอีกครั้ง เรื่อง อนัตตลักขณสูตร  https://goo.gl/xG9PSd แล้วมาบรรลุอรหันต์พร้อมกันทั้งห้ารูป
2. พระยัสสะ ผู้มั่งคั่ง พ่อสร้างปราสาทสามฤดูไว้ให้คล้ายเจ้าชายสิทธัตถะ ท่านเจ้าของวลี “ที่นี่ขัดข้องหนอ ที่นี่วุ่นวายหนอ” และก็ได้ฟังธรรมจนบรรลุพระโสดาบัน และมาฟังอีกครั้ง เมื่อตอนพระพุทธเจ้าเทศน์ให้พ่อของพระยัสสะฟัง เกิดเป็นอาบาสกครั้งแรก ส่วนท่านเองได้บรรลุเป็นพระอรหันต์….​ที่สำคัญ….ท่านเป็นลูกชายของพระนางสุชาดา ผู้ถวายข้าวมธุปายาสให้เจ้าชายสิทธัตถะเสวยก่อนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านั่นเอง http://www.thammapedia.com/sankha/maha_yasa.php ว้าว

 

จากที่นี้ เราจะต้องเดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่องบิน เพื่อบินต่อไปยังนิวเดลี

พระอาจารย์ธรรมทูตประจำรถคันที่ 2 คือ พระอาจารย์ทวีทรัพย์ ก็ได้สวด ธรรมจักรกับปวัตนสูตร ที่ไพเราะ

เพื่อแสดงความขอบคุณในน้ำใจของพวกเราในรถ พร้อมกับส่งท้ายว่า ฝากพระพุทธศาสนาไว้กับโยมทุกท่านด้วยนะ น้ำตาจิไหล

ปล. บ่องตงว่าเมื่อก่อน ฟังพระสวดใช่ว่าจะรู้สึก “ไพเราะ”  นะ

แต่ฟังครั้งนี้… มันรู้สึกไม่เหมือนความ “เพราะ” ทั่วไปที่รู้จัก…แต่เรียกได้ว่า “ไพเราะ” แบบซาบซึ้งละมุนสงบ ที่ ใจ.. กราบขอบพระคุณพระอาจารย์

 

:::::::

เกร็ดความรู้ :

1. วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ (วันอะไรเอ่ย….วันอาสาฬหบูชานั่นเอง)

พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาครั้งแรก เป็นปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ พระองค์ประกาศ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” คือ “พระสูตรว่าด้วยการยังธรรมจักรให้เป็นไป” หรือพระสูตรว่าด้วยการหมุนวงล้อธรรม ซึ่งเป็นปฐมเทศนา

เนื้อหาว่าด้วยมัชฌิมาปฏิปทา คือทางสายกลาง ซึ่งเว้นที่สุด ๒ อย่างและว่าด้วยอริยสัจ ๔ อันมี ทุกข์สมุทัย นิโรธมรรค ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ อันทำให้พระองค์สามารถปฏิญาณว่า ได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ (ญาณคือความตรัสรู้เองโดยชอบอันยอดเยี่ยม) ท่านโกณฑัญญะ หัวหน้าคณะปัญจวัคคีย์ ฟังพระธรรมเทศนานี้แล้ว ได้ดวงตาเห็นธรรม (ธรรมจักษุ) พระพุทธเจ้าทรงเปล่งอุทานว่า
“อญญาสิ วต โภ โกณฑญโญ ๆ”
(โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ ๆ)

โซนที่เกิดเหตุการณ์สำคัญนี้คือบริเวณที่ตั้งธรรมเมกขสถูป ที่ใหญ่ยิ่งโดดเด่นเป็นแลนด์มาร์กของป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แห่งนี้นั่นเอง)

 

…

2. ครั้นพระภิกษุปัญจวัคคีย์ตั้งอยู่ในที่พระสาวกและมีอินทรีย์ มีศรัทธา แก่กล้าสมควรสดับธรรมจำเริญวิปัสสนา เพื่อวิมุตติสุขเบื้องสูงแล้ว ครั้นถึงวันแรม ๕ ค้ำ แห่งเดือนสาวนะ คือเดือน ๙ พระบรมศาสดาจึงได้แสดงพระธรรมสั่งสอนพระภิกษุปัญจวัคคีย์ด้วย “อนัตตลักขณสูตร” คือพระ สูตรที่แสดงลักษณะแห่งเบญจขันธ์ว่าเป็นอนัตตา (ไม่ใช่ตัวใช้ตน) เพื่อพระบรมศาสดาตรัสพระธรรมเทศนาแสดงอนัตตลักขณสูตรอยู่ จิตของพระภิกษุปัญจวัคคีย์ผู้พิจารณาภูมิธรรมตามกระแสเทศนานั้นพ้นแล้วจากอาสวะ (กิเลสที่หมักหมมไว้ดองอยู่ในสันดานไหลซึมซ่านไปย้อมจิตเมื่อประสบอารมณ์ต่าง ๆ ) ไม่ถือมั่นด้วยอุปาทาน สำเร็จเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด (อันนี้คือตรง ธรรมราชิกสถูป ที่เราได้ไปนั่งสมาธิในครั้งนี้นั่นเอง) 

Credit: http://www.dhammathai.org/buddha/g33.php

….

3.

จักร…พระอาจารย์ว่า คือ อาวุธ …

ธรรมจักร คือ อาวุธ เพื่อทำลายอกุศล เพื่อทำลาย อวิชชา หรือ ความไม่รู้

……..

กราบขอบพระคุณครูอ้อย เพื่อนกัลยานมิตรเข็มทิศ และทุกคน ทุกสิ่งอย่าง ที่ทำให้สามารถได้เยือนอินเดียในทริปนี้ค่ะ

…….

ขออนุโมทนาสาธุ ทุกท่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ

บุญกุศลอันดีใดที่เราได้ทำไว้ดีแล้ว ขอน้อมส่งบุญมายังทุกท่านให้ได้ประสบสำเร็จทั้งทางโลก ทางธรรม เข้าถึงความสุขที่แท้จริงค่ะ

 

#PintoLC