Breaking News
Home / Innovating / Uber เกือบฆ่า Lyft แต่แล้ว Lyft กลับพลิกเกมส์ได้อย่างน่าทึ่ง

Uber เกือบฆ่า Lyft แต่แล้ว Lyft กลับพลิกเกมส์ได้อย่างน่าทึ่ง

 

ในปี 2014 การแข่งขันสุดร้อนแรงระหว่าง Uber และ Lyft

สองบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ที่คล้ายกัน

ใช้ Gig economy ที่เกิดขึ้นเพื่อเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมการคมนาคม

คือต่างเป็นแพล็ตฟอร์มคนกลาง ที่ทำให้เจ้าของรถ สามารถหารายได้จากการขับรถเหมือนแท็กซี่ รับส่งผู้โดยสารได้

หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นคนกลางที่ทำให้ผู้โดยสารกับแท็กซี่ป้ายดำ มาเจอกัน

แท็กซี่ป้ายดำก็คือรถรับส่งไม่สาธารณะที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแท็กซี่ เป็นรถเก๋งทั่วๆ ไป

อูเบอร์ซึ่งเป็นรุ่นพี่เริ่มต้นมาก่อน 3 ปีล่วงหน้านั้น ใหญ่ยักษ์ มีเงินมากกว่า และเปิดดำเนินการแล้วในหลายเมืองมากกว่า Lyft

ในจุดนี้เอง ที่ Travis Kalanick ที่เป็น CEO ของอูเบอร์ในเวลานั้น พยายามที่จะกำจัดคู่แข่ง ด้วยการเสนอซื้อ Lyft แต่ว่า Logan Green และ John Zimmer จาก Lyft ปฏิเสธข้อเสนอ

การทำแบบนั้น เพิ่มความเสี่ยงให้กับ Lyft มหาศาล ในการจะขยาย Lyft ในเดือนต่อๆ มา

ในปี 2015 Lyft เหลือเงินหมุนในการดำเนินการแค่ 4 เดือน

ใน Stark Contrast อูเบอร์ได้เงินลงทุน 2.5 พันล้านเหรียญ

หนึ่งในนักลงทุนเจ้าใหญ่สุดของ Lyft , ผู้ประกอบการ Serial entrepreneur (คือผู้ประกอบการที่ทำหลายๆ ธุรกิจ พร้อมๆ กัน), นักลงทุนที่มีประสบการณ์กว่าสิบปี ให้คำแนะนำกับ Lyft ว่า “จงปิดบริษัทเสียเถิด”

“มีคนมากมายนับถอยหลังพวกเราแล้ว” Zimmer ให้สัมภาษณ์กับ INC

ตัดภาพกลับมาปัจจุบัน ในเดือน มี.ค. 2019 Lyft ได้ตี Uber เมื่อเปิด Public โดยขอเงินลงทุน 2.34 พันล้านเพื่อการดำเนินงาน

 Lyft ซึ่งตอนนี้เปิดตลาด 300 แห่ง อัพเดทว่า จำนวนผู้ขับขี่ที่แอ็คทีฟ ได้เพิ่ม 3 เท่าในเสองปีที่ผ่านมา

ชณะที่ Uber พยายามเป็นผู้นำส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา Lyft เก็บภาคพื้นดิน เขาบอกว่าได้ 39% ส่วนแบ่ง ของตลาดร่วมด้วยช่วยขับในอเมริกา (เพิ่มขึ้นจาก 22% ใน 2 ปีที่ผ่านมา)

มองย้อนหลังกลับไปถึงการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สรุปได้ว่า การพลิกโฉมหน้าของ lyft มาจากคำๆ เดียวคือ “โฟกัส”

“สิ่งที่นักลงทุนบอกพวกเรานั้น ดีที่สุดและเป็นคำแนะนำที่ยอดเยี่ยมที่สุด ที่พวกเราได้รับ เพราะมันผลักดันให้เรา ทุ่มเทเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นสองเท่า เพิ่มพลังคุณค่าเรามากขึ้น และเพิ่มกำลังความเชื่อมั่นในทีมมากขึ้น”

การที่หลังชนฝา Lyft โฟกัสในสิ่งที่ทำให้บริษัทเขาแตกต่างจากคู่แข่ง เช่น Lyft สร้างชื่อเสียงให้ ใจดีกว่า สุภาพกว่าอีกสองแบรนด์ นั่นหมายถึงการใส่พลังความพยายามในการจัดลำดับความสำคัญให้คนขับและความต้องการของเขา

Lyft สร้างความโฟกัสอย่างเข้มข้นให้กับกลยุทธ์ขององค์กร

ซึ่งแตกต่างจาก Uber

เช่น ขณะที่ Uber ใช้เงินหลายล้านสร้าง Global brand (ปัจจุบันขยายไปกว่า 60 ประเทศ) และขยายไปยังการส่งอาหาร, ขนส่งทางเรือ และพัฒนาระบบไร้คนขับ

Lyft กลับโฟกัสเฉพาะการขนส่งผู้โดยสาร เขาลงทุนในระบบไร้คนขับเช่นกัน แต่ระมัดระวังมากขึ้น

และขณะที่ Green & Zimmer เห็นศักยภาพในการขยายในประเทศอื่น พวกเขายังคงมุ่งเป้าที่อเมริกาเหนือในตอนนี้ (ขณะนี้ขยายไปโตรอนโต เป็นเมืองแรกนอกอเมริกา)

แล้วอนาคตของ Lyft ล่ะ

ขณะนี้บริษัทกำลังเชื่อมโยงข้อมูลขนส่งสาธารณะตรงมาที่แอ็ป

เป้าหมายของ Lyft คืออะไร

ขณะที่โมเดลการขนส่งเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในโลก ผู้ก่อตั้ง Lyft ต้องการเป็นที่แรกที่ผู้บริโภคจะเลือกในการเดินทางจากจุด A ไปจุด B

“เราไม่สนใจว่ามันจะเป็นรถบัส มอเตอร์ไซค์ หรือรถไฟ ตอนนี้เราอยากที่จะเชื่อมโยงคุณกับวิธีการเดินทางใดก็ตามที่ดีที่สุดสำหรับคุณ”

ขณะที่พูดถึงการเป็นเจ้าของรถ Zimmer บอกว่า เขาต้องการให้ Lyft สามารถสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้ดีขึ้น ด้วยราคาที่ดีขึ้น

ลองจินตนาการว่าใช้ Lyft เพื่อการบริการ, การทำความสะอาด, การเติมน้ำมัน แม้แต่การทำประกันรถ

“นั่นคือความมหัศจรรย์ของการบริการ”

นั่นคือสิ่งที่ Lyft โฟกัส ด้วยหัวใจที่ให้ลูกค้ามาก่อนสิ่งอื่นใด ที่ช่วยให้ Lyft ไม่ใช่แค่อยู่รอด แต่ยังก้าวต่อไปด้วย

สองผู้ก่อตั้งปฏิเสธที่จะพูดถึง Kalanick ที่เสนอจะซื้อ Lyft ในช่วงปีที่ผ่านมา

แต่เมื่อถามว่า ดีใจไหมที่ไม่ได้ขายไป

Zimmer เป็นตัวแทนตอบว่า “มาก”

 ………………………………………………………………….

ความอดทน พยายาม เชื่อมั่น สู้ไม่ถอย กัดไม่ปล่อย ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

แต่การเดินทางนี้อีกยาวไกล ใช่ว่าตลาดแพล็ตฟอร์มขนส่งสาธารณะจะมีแค่ Uber, Lyft, Grab ซะเมื่อไร

เราคงได้ติดตามเรื่องราวสนามการต่อสู้ของตลาดนี้กันอีกในอนาคต

แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ เรา “โฟกัส” สิ่งที่เราทำ “เชื่อมั่น” และ “สู้ต่อไป” ให้สมกับที่ Lyft แสดงให้ดูเป็นตัวอย่างกันแล้วรึยัง

(นี่ก็บอกตัวเองอยู่ >_<)

#เสิร์ฟด้วยใจ

@Pintooh

 

Photo: Business insider, mthai, KWCH

ที่มา

ขอบคุณการแบ่งปันบทความต้นฉบับดีๆ จาก SEAC , Your Next U

นวัตกรรมการเรียนรู้ยุคใหม่ แพล็ตฟอร์มแรกของไทยและของโลก ที่ให้คุณเลือกเติมความรู้ระดับโลกเองได้หลากหลายวิชา หลากหลายเวลา หลากหลายรูปแบบ

LINE: @yournextu

www.yournextu.com

Please follow and like us:
0

About pintooh

งานประจำ คือ เรียนรู้ และแบ่งปัน
> งานพิเศษ คือ ท้าทายตัวเอง
> งานอดิเรก ผูกพันกับดนตรี เกาหลี และแรงบันดาลใจทั้งปวงในโลกหล้า
::: Now I am practicing Storytelling + Vipassana + Life designing + Innovating :::

Check Also

นักธุรกิจระดับ Unicorn ให้คำแนะนำแก่นักเรียน MBA ชั้นนำของโลก ว่าอะไร?

อยากรู้ไหมคะ ว่ …

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *