Breaking News
Home / Innovating / Creativity ความคิดสร้างสรรค์ / [Clipเด่นเด็ด] ถอดสลัก ความกลัว และกล้าคิดต่าง กับ 2 Ted talks ที่อาจเปลี่ยนชีวิตคุณ

[Clipเด่นเด็ด] ถอดสลัก ความกลัว และกล้าคิดต่าง กับ 2 Ted talks ที่อาจเปลี่ยนชีวิตคุณ

รู้ทั้งรู้ ว่าการคิดนวัตกรรม การคิดสร้างสรรค์

ต้อง “กล้าต่าง” และ “ไม่กลัวการล้มเหลว” หรือ “การถูกปฏิเสธ”

แต่พอจะทำเข้าจริงๆ ไม่ใช่จะก้าวข้ามกันได้ง่ายนัก

 

.

ปิ่นเจอ 2 ted talks ที่น่าสนใจมาก ทั้งให้แรงบันดาลใจ และให้ How to  ในการสร้างกล้ามเนื้อแห่งการสะสม ความสามารถในการ “กล้าคิดต่าง”

และ “ไม่กลัวการถูกปฏิเสธ”

บอกเลยว่า “ต้องดู”

คลิปเหล่านี้ไม่ใช่แค่ตลก แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้ สามารถนำไปปรับใช้ ไปฝึกใช้ได้จริง

What I learned from 100 days of rejection | Jia Jiang

เพราะเคยมีเหตุการณ์ฝังใจในสมัยยังเด็ก ทำให้ Jia Jiang กลัวการถูกปฏิเสธมาก (ขอเชิญให้กดดูคลิปด้วยนะคะถ้าสามารถ เขาเล่าดีค่ะ)

ตัดภาพกลับมา พอเขาโตขึ้น เขามีไอดอลเป็นบิลล์ เกตต์ และอยากเป็นผู้ประกอบการ เขาไปเป็นผู้ประกอบการอยู่พักหนึ่ง แล้วไปขอเงินนักลงทุน และแน่นอนว่า ถูกปฏิเสธมา

ตอกย้ำที่แผลเก่า เจ็บปวดมาก จนอยากยอมแพ้ แต่นึกขึ้นได้ เจออะไรอย่างนี้ บิลล์ เกตต์ จะยอมแพ้ไหม

คนที่ประสบความสำเร็จ มีใครยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้ไหม ไม่มีทาง

แต่เบื้องลึกเขาก็ยังคงกลัวการถูกปฏิเสธอย่างเข้ากระดูกดำอยู่ดี เขาจึงต้องหาทางออก ด้วยการค้นหาใน google

แล้วก็พบว่า บทความส่วนใหญ่ บอกให้เอาชนะมันให้ได้ เขารู้ แต่ยังไงก็ยังกลัวมากอยู่ดี

แล้ววันหนึ่ง เขาก็ได้พบกับเว็บไซต์หนึ่งโดยบังเอิญ “Rejection Therapy” คือเกมส์ สร้างขึ้นมาโดยผู้ประกอบการชาวแคนาดา ในเกมส์ให้คุณออกไป เผชิญหน้ากับการปฎิเสธทุกวัน ทำทั้งหมด 30 วัน แล้วสุดท้าย คุณจะไม่กลัวมัน

Jia ตั้งเป้าสูงกว่าว่า จะออกเผชิญหน้ากับการปฏิเสธให้ได้ 100 วัน ว่าแล้วเขาก็คิดดีไซน์การถูกปฏิเสธ แล้วบันทึกลง vdo blog

 

  • วันแรก คือ ยืมเงินจากคนแปลกหน้า กว่าจะเดินไปขอยืมเงินได้ เหงื่อออกแทบหมดตัว พอเขาปฏิเสธ รีบขอโทษแล้ววิ่งหนีไปเลย

แต่เพราะถ่ายวิดีโอไว้ ทำให้กลับมาดู เห็นว่าตัวเองกลัวมาก ราวกับอยู่ในหนังสยองขวัญ ทั้งที่คนที่เขาคุยด้วย ดูท่าทางใจดีด้วยซ้ำ

สิ่งที่เขาได้เรียนรู้ และจะทำใหม่ในวันรุ่งขึ้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะไม่วิ่งหนี

  • วันที่สอง “ขอเติมแฮมเบอร์เกอร์” กับพนักงานร้านฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง

แทนที่จะ Refill เติมเครื่องดื่ม นี่ขอเติมแฮมเบอร์เกอร์พนักงานงงเป็นไก่ตาแตก และแน่นอนว่าปฏิเสธ แต่คราวนี้ เขาไม่วิ่งหนีเหมือนคราวต่อไป เขากลับพูดชมแฮมเบอร์เกอร์ร้านเขาต่อ จนสุดท้าย พนักงานคนนั้นบอกว่า “เดี๋ยวจะบอกผู้จัดการร้านให้” แต่ที่ดีกว่านั้นคือ ความรู้สึกจะขาดใจตายเหมือนวันก่อน ไม่มีอยู่แล้วในวันนี้

  • วันที่สาม “ขอโดนัทรูปสัญลักษณ์โอลิมปิก”

ตอนแรกเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่สุดท้าย…พนักงานคริสปี้ครีมคนนั้น ก็ไปทำมาให้จนได้  Jia ตกใจและประทับใจมาก

วิดีโอนั้น มีคนดูถึง 5 ล้านคน และเขากลายเป็นคนดังไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

เขาไม่ได้อยากดัง แต่อยากจะเรียนรู้แล้วเปลี่ยนตัวเอง

เขาจึงเปลี่ยนวันที่เหลือในโปรเจค 100 วันแห่งการปฏิเสธ เป็นสนามเด็กเล่น เป็นเหมือนงานวิจัย

แล้วเขาก็ได้ค้นพบความลับว่า ถ้าถูกปฏิเสธแล้วไม่วิ่งหนี

อาจสามารถเปลี่ยน “ไม่ได้” เป็น “ได้”ได้

โดยใช้คำวิเศษ คำนั้นก็คือ “ทำไม”

  • อีกวัน ที่เขาเดินไปบ้านคนแปลกหน้า พร้อมดอกไม้ในมือ เขาเข้าไปเคาะประตูแล้วถามว่า

“ปลุกดอกไม้นี่ที่หลังสวนคุณได้ไหม” เขาก็บอก “ไม่ได้”

แต่ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไป ขอถามก่อนว่า “เพราะอะไร”

เจ้าของบ้านคนนั้นบอกว่า “ฉันเลี้ยงสุนัข มันชอบขุดทุกอย่างในสวน ฉันไม่อยากเปลืองดอกไม้คุณ ถ้าอยากปลูก ลองข้ามถนนไป และคุยกับอีกบ้านหนึ่งดู เธอชอบดอกไม้”

แล้ว Jia ก็ตรงไปเคาะประตูบ้านคนนั้น เจ้าของบ้านคนนี้ดีใจมาก และดอกไม้ก็ได้อยู่ในหลังสวนของเธอ

แต่หากเดินจากไป หลังจากที่ถูกปฎิเสธตอนแรก เราอาจคิดเอาเองว่า เพราะเขาไม่ได้เชื่อใจ

หาว่าบ้ารึเปล่า หรือเพราะเขาแต่งตัวดูไม่ดี แต่ที่จริงไม่ใช่เลย เพียงเพราะสิ่งที่ Jia เสนอ ไม่ตรงกับสิ่งที่เขาต้องการ

 และเขาเชื่อใจพอที่ จะเสนอการส่งต่อ

 ลองดูในคลิปข้างบนเพิ่มเติมนะคะ เด็ดมาก!

 ใครจะดูรายละเอียด 100 challenge ของเขา ดูต่อได้ใน https://www.rejectiontherapy.com/100-days-of-rejection-therapy/


อีกคลิป อันนี้ก็แซ่บมาก

เราจะพบว่า การฝึก “คิดต่าง” วันละนิด ทำให้สุดท้าย มีความคิดต่างอัตโนมัติกับทุกเรื่องในชีวิต

ที่ว่า “คิดสร้างสรรค์” ทำได้เห็นจริง ต้องลองฝึกวิธีนี้ดู

Time bending — 365 ways to unlock creativity and innovation | Ken Hughes | TEDxUniversityofNicosia

 

Pintooh ดูแล้ว กำลังคิดจะไป Challenge ตัวเองแบบนี้้บ้าง

ว่าจะติด hashtag #dare2bdif #facingrejection

Please follow and like us:
0

About pintooh

งานประจำ คือ เรียนรู้ และแบ่งปัน
> งานพิเศษ คือ ท้าทายตัวเอง
> งานอดิเรก ผูกพันกับดนตรี เกาหลี และแรงบันดาลใจทั้งปวงในโลกหล้า
::: Now I am practicing Storytelling + Vipassana + Life designing + Innovating :::

Check Also

เมื่อช่างซ่อมเปียโน ต้องไปจูนเสียงเปียโนที่ รพ. แห่งหนึ่ง

“การทำใจ ยอมรับ …

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *