‪#‎เข็มทิศภาวนาอินเดีย ‪#‎day5 กุสินารา , วัดพม่า, วัด 960 ข้ามไปเนปาล เยือนสวนลุมพินีต้นฉบับ

‪#‎เข็มทิศภาวนาอินเดีย ‪#‎day5

ภาษาอินเดียวันนี้ :
ขอบคุณ = ทันเนวาส
.

‪#‎เข็มทิศภาวนาอินเดีย ‪#‎day5 ‪#‎ยามเช้า @กุสินารา เมืองที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
ก่อนเดินทางไปเนปาล ลุมพินี ที่ประสูติของพระพุทธเจ้า

เราไปวัดพม่าที่กุสินารา ครูอ้อยชี้ให้เห็นว่า ชาวพม่าจะมานั่งสมาธิที่นี่
และดำรงเจดีย์ที่นี่เหมือนชเวดากอง
เราคนไทยให้เรามีวัดไม่ใช่เพียงทำพิธีกรรม แต่ให้มีการปฏิบัติด้วย (เมื่อวานพวกเราได้นั่งสมาธิที่บริเวณพระพุทธเจ้าปรินิพพาน นานมาก ดีมากๆ)

อากาศเช้านี้ เย็น ควันออกจากปากเลย แต่หนาวน้อยกว่าเมื่อวานที่เมืองเวสาลี
18.12.15
‪#‎หนึ่งในทริปที่ดีระดับสูงสุดในชีวิต

 

เดินทางข้ามอินเดียมาเนปาล มาอย่าง amazing ถนนแคบมาก เหลือเลนเดียว รถบัสใหญ่เบิ้มอย่างรถพวกเรา ยังสวนกับรถอื่นได้อีก ไม่น่าเชื่อแต่ก็เป็นไปแล้วอย่างน่าทึ่ง

เราได้แวะวัด 960 อยู่ระหว่างทางข้ามจากอินเดีย ไปเนปาล ห้องน้ำสวยงาม (สมัยก่อนที่เรามา มีแต่ห้องน้ำ ตอนนี้เป็นวัดแล้ว สัปปายะมากเลย) มีโรตีอรีดอย อร่อยรุนแรงสมคำร่ำลือ

ที่วัดมีร้านขายสินค้า Himalaya กำไรถือเป็นการทำบุญให้กับวัด

…..

@ลุมพินีวัน ณ สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า
มีชาวธิเบตในเครื่องแบบพระ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จำนวนมาก
นึกถึงทางที่ขับรถผ่านมา มีเต้นท์ที่พักร่วมกันรอบๆ บริเวณที่สักการะแห่งนี้ของเหล่าพระธิเบตมากมาย เกือบเรียกได้ว่า มืดฟ้ามัวดิน

ในบรรดากลุ่มที่มาสักการะพระพุทธเจ้า ก็มีพระไทย คนไทย ใส่ชุดขาวบ้างประปราย ได้ยินบทสวดที่คุ้นเคยแบบเถรวาทบ้าง

ที่นี่ เราได้นั่งสามล้อเข้าไปเหมือนครั้งก่อน ข้างทางมีเด็กๆ เรียกมหารานี อย่างเคย นั่งสามล้อจักรยานผมปลิวมากับนุ๊ก ซึ่งนุ๊กได้ให้เงินเด็กไปคนหนึ่งที่วิ่งตามรถเรามาในจังหวะที่ใช่มากๆ อนุโมทนา

เราเดินเวียนเข้าไปภายในสถูปที่ได้รับการอนุรักษ์ มีอาคารครอบไว้ (คงเพื่อไม่ให้สภาพอากาศภายนอกทำลาย) ที่ในนี้มีอิฐที่ก่อขึ้นมาบอกว่าสถานที่นี้มีในสมัยไหน ซึ่งกำแพงอิฐน้อยๆ นี้ก็เอียงมิเอียงแหล่ จนมีคนสร้างคานเหล็กดามไว้

ตรงกลางสถูป มีรูปปั้นเหมือนพระนางสิริมหามายา พระมารดาของพระพุทธเจ้า ขณะโน้มกิ่งไม้คลอด และมีพระพุทธเจ้าตัวน้อยด้วย
มองลงไปด้านล่างก็เห็นรอยเท้าพระบาท
อิฐด้านข้างจุดกึ่งกลางสถูปนั้น มีการติดทอง ติดทองเยอะมากเสียงจนอิฐแทบจะกลายเป็นกำแพงทองคำ
มีคนโยนเงิน เครื่องสักการะไว้ในบริเวณนั้นมากมาย
ขอบด้านข้างของภายในสถูปเป็นพื้นไม้ มีพระนั่งอ่านบทสวดเงียบๆ บ้างประปราย ขณะเราเดินเวียนซ้ายเข้าไปวนดูโดยรอบ

มีป้าย 2 อย่างในที่นี้คือ 1. ห้ามถ่ายรูป และ 2. โปรดเงียบ
เทวดาอาจจะเยอะ ในนี้เย็นๆ มีเสียงจั๊กจั่นข้างในอาคารสถูปนี้ด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นป่าดี (แม้ด้านนอก โล่งเตียนหมดแล้ว)

เราตามครูออกมานั่งสมาธิด้านนอกยาวนาน 1:30 ชม. อากาศดีงามมาก และเย็นลงเรื่อยๆ ขณะที่เสียงสวดภายนอก จากดังก็เป็นสงบลง
เราได้สวด กายคตาสติกันที่นี่ด้วย สวดจบก็ค่ำพอดี เราเวียนเข้าไปกราบชมที่ประสูติพระพุทธเจ้าอีกครั้ง ก่อนจะกลับออกมา

ด้านนอก ไม่มีไฟฟ้าเลย ได้ใช้ไฟฉายก็คราวนี้
เราออกมาใส่รองเท้าด้านนอกแล้วเดินออกไป ปรากฏไม่มีรถสามล้อรออยู่เลย เจอสาวสวยในกลุ่มอีก 4 คน เราจึงตัดสินใจเดินออกไปที่ถนนใหญ่ ระยะทางประมาณ 700 เมตร

มันมืดมาก แต่ไม่น่ากลัวเลย เพราะเพื่อนร่วมเดินเท้าเป็นพระธิเบตประมาณกองทัพหนึ่งอยู่รายล้อมเดินออกไปจนถึงปากทาง

กลับมาทานข้าวเย็น ก็ได้มีโอกาสนั่งสมาธิร่วมบุญกับกลุ่มนางหญาหมื่นล้านอีกรอบ ดีงามเลอค่ามากมาย อนุโมทนาสาธุได้เต็มที่นะคะ

ข้อสังเกตที่เนปาลนี้
> โรงแรมที่นี่คล้ายๆ โรงแรมไทย ไม่เหมือนสไตล์อินเดียในทุกๆ คืนที่ผ่านมา
> คนที่นี่มีเชื้อจีนผสมด้วย ไกด์บอกว่า จะมีคนหน้าตาประมาณชาวเขา ชาวเผ่าบ้านเราอยู่ด้วย

ข้อคิดที่ได้วันนี้
~ ขอบพระคุณพระพุทธเจ้า ที่ทรง “เลือก” ช่วยเหลือพวกเรา
แล้วเราจะไม่ช่วยเหลือตัวเอง ด้วยการออกเดินทางตามทางที่ท่านได้กรุยให้ไว้เป็นอย่างดี มีแผนที่ประกอบด้วยหรือ
หนทาง ที่ท่านแลกมาด้วยการเสียสละระดับที่มหาบุรุษท่านนี้เท่านั้นที่ทำได้ขนาดนี้ ยากจะหาใครทำได้เท่า

‪#‎หนึ่งในทริปที่ดีระดับสูงสุดในชีวิต

อ่านตอนต่อไป

#‎เข็มทิศภาวนาอินเดีย #‎day6 ‪ วัดพระเชตวัน สถานที่พลังงานดีงามระดับพีค