เคยไหม?

กำลังนั่งทำงาน แต่แล้วก็มีเสียง เบาๆ ในตัวเรา บอกว่า “เลิกเหอะ” “พอเถอะ” “ไปทำอย่างอื่นเถอะ”..

นาฬิกาปลุก ตอนเช้า เราทำท่าจะลุก แต่คล้ายได้ยินบางเซลล์ บอกเราว่า “นอนต่อเถอะ” “อย่าเพิ่งตื่นเลย”

กำลังวิ่ง ออกกำลังกาย ให้ได้ 5 รอบ แล้วก็มีเสียง เบาๆ ในตัวเรา “พอเถอะ” “เหนื่อยแล้ว เลิกเหอะ” “ไม่ไหวแล้ว” “หยุดเถอะ”

คุณทำยังไงกับเสียงนั้น ที่มันดังเป็นระยะๆ ขณะที่คุณกำลังก้าวเข้าสู่เป้าหมายที่คุณต้องการ

เคยไหม?
หยุดเลย หยุดทำงาน นอนต่อ เลิกวิ่ง
แล้วรู้สึกยังไง…

แล้วเคยไหม?
นั่งทำต่อ
ลุกขึ้นมาจากเตียงเลย
วิ่งต่อ หาวิธีรับมือกับร่างกาย แล้ววิ่งจนครบ 5 รอบอย่างที่ตั้งใจ
แล้วรู้สึกยังไง…

^^
แล้วมันสำคัญกว่านั้น
ทุกๆ ความรู้สึก หลังจากคุณตัดสินใจเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง มันจะประทับจำ ฝังรอยลงไปในทุกเซลล์ในร่างกายคุณ ก่อร่างสร้างตัวเป็นนิสัย เป็น pattern พฤติกรรมของคุณ ซึ่งสามารถส่งอิทธิพลอย่างสูงส่ง ต่อความสำเร็จ ต่อความฝันที่เป็นจริงหรือฝันลมแล้งของคุณ

วันนี้ มีโอกาสฟังผู้บริหารระดับสูงที่ประสบความสำเร็จและเก่งมากๆ ท่านหนึ่ง
เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ประมาณนี้ แสนจะเห็นภาพ
ท่านชอบวิ่งมาราธอน
และให้คำมั่นกับตัวเองว่าจะวิ่งทุกวัน
ท่านเป็นผู้บริหารระดับสูง จึงงานยุ่งและหนักมาก
แต่ก็มีคนสงสัยว่า แล้วหาเวลาที่ไหนวิ่งทุกวัน

ท่านตื่นตี 4 มาวิ่งทุกวัน
ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก ถ้าบอกกับตัวเองว่าจะวิ่ง ก็จะวิ่งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่เอาสิ่งต่างๆ ภายนอกมาเป็นอุปสรรค มาเป็นข้ออ้าง

นอกจากนั้น ท่านบอกว่า การไปสู่เป้าหมายมีความเจ็บปวดนะ
การที่ตื่นตี 4 มาวิ่ง ขณะที่หลายคนกำลังนอนฝันหวาน แต่เราต้องมาวิ่ง มันก็เจ็บปวดนะ

ขณะเดียวกัน จะมีบททดสอบตัวเราเองทุกระยะ
วิ่ง 8 กม. จะปวดขามาก มีเสียงดังขึ้นในหัวว่า “เลิกเถอะ”
และมันจะดังขึ้นอีกเป็นระยะๆ 12 กม. 18 กม. ฯลฯ

และก็จะมีบททดสอบเรี่ยบ้ายรายทางตลอด
แต่ก็เป็นปัญหาให้เราทดลอง และแก้ไปตลอด
เพราะเราจะไม่มีทางวิ่งไปถึงกม.ที่ 42 ได้เลย

วิ่งไป 8 โล ปวดขา ก็ลองวิ่งให้ช้าลง
แต่พอวิ่งไป 12 กม.
ขาที่ดีขึ้น ก็ปวดขึ้นมาอีก
การแก้ปัญหาแบบเดิม คือวิ่งให้ช้าลง กลับไม่ช่วยให้ดีขึ้น
ก็ไปจิบน้ำ

เมื่อใด ที่เราสามารถวิ่ง ตะลุยทุกแบบทดสอบทั้งทางกายและใจ ไปถึงกม.ที่ 42 ได้
ความรู้สึกนั้นเป็นยังไง

มันไม่ใช่แค่นั้น
ความรู้สึกนั้นยังประทับตราตรึงลงไปในเซลล์ ลงไปในจิตใต้สำนึก
และมันจะเรียนรู้จากทุกอณูในตัวเรา ถึงความสำเร็จ ถึงความภาคภูมิใจ ได้เรียนรู้ว่า ทุกอุปสรรค เราจะผ่านพ้นมันมาได้เสมอ และไม่ว่าจะปวดขา เสียงในหัว ง่วงนอน ความกลัว ความกังวล หรือว่าอะไร ก็ไม่อาจยับยั้งความมุ่งมั่นตั้งใจที่เราต้องการจะไปให้ถึงเป้าหมายให้จงได้ พุ่งชนแหลกฟันฝ่า ตะลุยไปให้ถึงที่สุด

พระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ยังมีมหกรรมมารมาทดสอบเลย

แต่ดูให้ดี นี่คือสัญญาณว่า คุณเข้าใกล้ความสำเร็จขึ้นทุกขณะแล้วไหม ^^

และเมื่อคุณมีความรู้ ความเข้าใจในระดับเซลล์แล้ว คุณก็สร้างความสามารถ ที่จะฟันฝ่า ที่จะตะลุยทำเป้าหมายให้สำเร็จ กับหลายๆ เรื่องที่จะเข้ามาในชีวิตเช่นกัน

ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไม พี่ท่านนี้ถึงได้เป็นผู้บริหารระดับสูงที่ประสบความสำเร็จและเก่งมากๆ

วิ่งตะลุยดะ ไปจนถึงเส้นชัย
เคยไหม?

ถ้าไม่เคย

วิ่งเลยไหม

เสิร์ฟพร้อมรอยยิ้มและวิ่งต่อไป
#PintoLC

(Credit: @torboon ; Pix:idealbite)